วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Honda CB150R ExMotion

ลืมมอเตอร์ไซค์ 150 ซีซีที่คุณเคยขี่ในชีวิตไปได้เลย!! คำพูดนี้คงไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อยา่งใด หลังจากที่ได้ลองขับขี่ Honda CB150R ExMotion ที่ผ่านมา งานนี้บอกได้เลยคำเดียวว่า สุโค่ย!! ทั้งสมรรถนะและอิมเมจสมกับนิยามที่ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ได้ให้คำจำกัดความกับมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้
ต้องเกริ่นก่อนว่า Honda CB150R ExMotion ได้มีการเปิดตัวไปเเล้วที่งาน The ExMotion World Premier Launchเมื่อวันที่ 4กันยายนที่ผ่านมา พร้อมกับกระเเสตอบรับที่่มีคนพูดถึงกันมากทั้งในโซเชี่่ยลมีเดีย และวงการนักไบค์เกอร์ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญถึงมอเตอร์ไซค์พันธุ์ใหม่ดีไซน์โดดเด่นด้วยสไตล์โมเดิร์นคาเฟ่เเละการนำเทคโนโลยีจากบิ๊กไบค์มาใส่รถสปอร์ตขนาด 150 ซีซี. คล้อยหลังจากวันเปิดตัวไม่กี่วันทาง บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ได้จัดกิจกรรมทดสอบขับขี่รถจักรยานยนต์ Honda CB150R ExMotion ขึ้นที่  สนาม ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิก ปราจีนบุรี แน่นอนว่างานนี้ Auto.MThai ไม่พลาดที่จะร่วมเป็นสื่อมวลชนกลุ่มแรกของโลกที่ได้ทดลองขี่
เมื่อคณะสื่อมวลชนต่างเดินทางมาถึง สนาม ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิก ปราจีนบุรี อันดับแรกก่อนลงสนามต้องรับฟังข้อมูลของ Honda CB150R ExMotion กันก่อนจากเหล่าผู้บริหารเเละเหล่าสต๊าฟจาก Honda หลังจากนั้นจะเป็นการบรีฟถึงรายละเอียดการทดสอบขับขี่ในสนามและกฏกติกามารยาทที่ต้องปฏิบัติเมื่ออยู่ในสนามทดสอบ โดยการทดสอบในครั้งนี้จะแบ่งการขับขี่ออกเป็น 3 สเตชั่นได้แก่ 1. Straight Course 2.Wind Course 3.Oval Course ซึ่งในแต่ละสเตชั่นจะมีความแตกต่างในด้านการทดสอบสมรรถนะที่แตกต่างกัน หลังเสร็จจากช่วงบรีฟจากนั้นกิจกรรมการทดสอบจะเริ่มขึ้นในช่วงบ่าย
แต่ก่อนที่เราจะไปทดสอบการขับขี่ในสนาม ลองมาทำความรู้จักกับมอเตอร์ไซค์คันนี้กันแบบคร่าวๆ สักหน่อย Honda CB150R ExMotion  คือมอเตอร์ไซค์สปอร์ตตระกูล 150 ซีซี. ในระดับโลกและในประเทศไทย เครื่องยนต์ออกแบบใหม่ขนาด 150 ซีซี. Generation 2017 DOHC 4 วาล์ว แบบ Roller Rocker Arm เกียร์ 6 สปีด ลูกสูบเคลือบโมลิบดีนั่ม ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI มาตรฐานไอเสียระดับ 6 ทำให้เครื่องแรง อัตราเร่งดี เร้าใจทุกการขับขี่ แต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับขนาดใหญ่ 41 มม. ใหญ่สุดในรถสปอร์ต 150 ซีซี ขนาดเดียวกับ X-ADV 750 บิ๊กไบค์สายลุย ท่อไอเสียแบบสั้น ดีไซน์ใหม่ ที่วางอยู่ใกล้กับเครื่องยนต์ ระบบไฟ Full LED ทั้งคัน พร้อมเรือนไมล์ Full LCD Multifunction Meter ที่บอกฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างครบครัน
ในส่วนของเฟรมได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นมาใหม่ให้เน้นการรวมมวลมาที่จุดศูนย์ถ่วงแบบ Inner Pivot Type Diamond Frame โดยเป็นการวางจุดศูนย์รวมของน้ำหนักให้อยู่ใกล้ผู้ขับขี่มากที่สุด เพื่อการควบคุมง่ายทุกสไตล์การขับขี่ เสริมความโดดเด่นด้วยดีไซน์ถังน้ำมันใหม่ที่มาพร้อมฝาถังน้ำมันแบบ Airplane Tank Cap เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยกับระบบเบรกหน้าหลัง ABS G-Sensor ที่มาพร้อมกับดิสก์เบรกหน้าจุดยึดแบบเรเดียลเมาท์ จานเบรกแบบแยกชิ้นขนาด 296 มม. คาลิปเปอร์แบบ 4 พอต ที่เป็นเทคโนโลยีจากสนามแข่ง สวิงอาร์มสไตล์บิ๊กไบค์ เสริมความมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยยางหลังขนาดใหญ่ หน้ายางกว้าง 150 มม.
พร้อมกับ 5นิยามสุโค่ย!! ของ Honda CB150R ExMotion ที่คุณต้องตะลึงเริ่มตั้งแต่ 1. ผู้ที่พัฒนารถรุ่นนี้เป็นผู้พัฒนารถ RC211, RC213V-S และรถซุปเปอร์สปอร์ตหลายๆรุ่นของฮอนด้า อาทิ CBR600RR ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับรถสปอร์ตเป็นอย่างดีและได้ถ่ายทอด DNA ความเป็นสปอร์ตมาสู่ CB150R คันนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
2.เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 150 ซีซี. ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แรงและเร้าใจกับผู้ได้ขับขี่
3.การออกแบบที่คิดมาอย่างพิถีพิถันที่เน้นการรวมมวลมาที่จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถมากที่สุด และมีการทำให้มีน้ำหนักเบาด้วยการออกแบบให้มวลน้ำหนักมาอยู่ใกล้ผู้ขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่ายและขับขี่สนุก
4.อุปกรณ์ต่างๆที่ใส่มาในรถคันนี้เป็นสเป็คระดับเดียวกันกับรถบิ๊กไบค์ ไม่ว่าจะเป็น โช้คอัพหัวกลับขนาดเดียวกับ X-ADV 750 หรือเบรกหน้าเรเดียลเมาท์ 4 พอต พร้อม ABS G- Sensor ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีอยู่ใน CBR1000RR
5.ร่วมกับแบรนด์ตกแต่งชั้นนำจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น Moriwaki, G’Craft และ Kitaco มาร่วมออกแบบและผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่ง เพื่อเสริมให้ CB150R คันนี้โดดเด่นและดึงดูดทุกสายตา พร้อมสะท้อนความมีสไตล์ของโมเดิร์นคาเฟ่ได้อย่างลงตัว
เเละเมื่อถึงเวลาที่ต้องลงสนามทาง Honda ได้จัดการทดสอบการขับขี่เป็น 3กรุ๊ป โดยทุกกรุ๊ปจะใช้ระบบเวียนทั้ง 3สเตชั่น โดย auto.MThai ถูกจัดอยู่ในกรุ๊ปบี ซึ่งจะเริ่มจากสเตชั่นที่1 Straight Course ก่อน สเตชั่นนี้จะเป็นการทดสอบการขับขี่ที่เน้นในเรื่องการออกตัว ระบบเบรก Radial Mount 4 POT พร้อมระบบ ABS G-Sensor เมื่อออกตัวจากจุดสตาร์ทวิ่งทางตรงด้วยความเร็วประมาณ 70-80 กม/ชม. เมื่อถึงระยะ 400 ให้ชะลอความเร็วและหยุดมอเตอร์ไซค์ในระยะ 100 เมตรข้างหน้า จากนั้นออกตัวทางตรงต่อไปอีก 300เมตรก่อนจะชะลอความเร็วเเละหยุดในระยะ 100 เมตร ก่อนจะออกตัวอ้อมวงเวียนวนซ้ายก่อนหยุดอีกครั้ง และคราวนี้เป็นการออกตัวซัดทางตรงยาวทางเดิมกับขามา แต่ครั้งนี้ไม่มีการเบรกแต่อย่างใดวิ่งตรงยาวก่อนจะชะลอความเร็วในช่วง 200 เมตรก่อนถึงจุดสตาร์ทที่ออกตัวมาครั้งแรก ในสเตชั่นนี้การขับขี่ Honda CB150R ExMotion สัมผัสได้ถึงการออกตัวที่คล่องตัวทันใจต้องการ รอบบิดความเร็วเร่งขึ้นฉับไว ทุกครั้งที่รอบทำงานไฟเตือนการเปลี่ยนเกียร์ Shift Light จะเเสดงบนเรือนไมล์ LCD ระบบเบรกสั่งการหยุดได้แบบไม่มีอะไรให้ต้องลุ้น ช่วงทางตรงขากลับอัดความเร็ว 110-120 กม/ชม. ได้แบบสบายๆ ในอัตเร่งช่วงปลาย

ต่อมาคือ Oval Course สเตชั่นเเห่งนี้จะเป็นการทดสอบการวิ่งทางตรงด้วยความเร็วก่อนจะเข้าโค้งด้วยความเร็ว 120 กม/ชม. ซึ่งเป็นการทดสอบระบบช่วงล่างตั้งแต่ยางที่เกาะถนน ด้วยความที่ Honda CB150R ExMotion  ใช้ยางหลังขนาดใหญ่ หน้ายางกว้าง 150 มม. การวิ่งในระดับความเร็ว 110-120 กม/ชม. เเล้วเข้าโค้งให้ความรู้มั่นใจเหมือนกับกำลังเข้าโค้งด้วยรถบิ๊กไบค์ เพราะด้วยขนาดของไซส์ยางที่ใช้ได้กับรถบิ๊กไบค์ทำให่้การเข้าโค้งไม่มีอาการสะบดหรือสไลด์ ในสเตชั่นนี้ผู้สื่อข่าวจะได้ขี่กันคนละสามรอบ เรียกว่าเป็นสเตชั่นที่้ใช้ทดสอบอัตราเร่งการทำความเร็วเเละการเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี
สเตชั่นสุดท้ายคือ Wind Course ที่เป็นการจำลองสภาพพื้นผิวถนนที่เราสามารถพบเจอได้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นพื้นถนนที่เป็นเนิน ทางโค้งมุมอับ สเตชั่นนี้จะใช้ทดสอบทั้งหมดแบบครบเซ็ตทั้ง อัตราเร่ง, การควบคุมรถ, ระบบช่วงล่าง, ความคล่องตัวของรถ, ไฟเตือนเกียร์โดยมีจุดที่ต้องระวังถึงสามจุดด้วยกันในสเตชั่นนี้คือทางโค้งทั้งสาม ทางสต๊าฟฟ์ได้ให้คำแนะนำว่าในสเตชั่นนี้ตำแหน่งของเกียร์ขณะเข้าโค้งควรอยู่ที่เกียร์ 3 เเละในทางปกติไม่ควรใช้ความเร็วสูงเพราะด้วยสภาพถนนไม่เบี่ยงตลอดเวลา ไม่ควรใช้เกียร์เกินตำแหน่งเกียร์ 5 แต่สิ่งที่ได้ในสเตชั่นนี้คือการได้สัมผัสถึงความคล่องตัวการบังคับขณะขับขี่ ซึ่งเราสามารถสัมผัสไๆด้ถึงการบังคับที่ค่องตัว น้ำหนักของมอเตอร์ไซค์ที่เบาเข้าโค้งได้แบบไม่ต้องฝืน เบี่่ยงซ้าย-ขวาได้แบบอิสระขณะขับขี่ อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้การบังคับขณะขับขี่ง่ายเนื่องจากการจัดวางท่านั่งของผู้ขับขี่ที่ตัวมอเตอร์ไซค์จัดให้ผู้ขี่มีท่านั่งที่สามารถบังคับตัวมอเตอร์ไซค์ได้ดีขึ้นกว่าเดิม
สรุปแล้วหลังจากที่ได้ทำการทดสอบการขับขี่จบทั้งสามสเตชั่นสิ่งแรกที่ประทับในคือความคล่องตัวที่คิดว่าเหมาะต่อการใช้งานในการขับขี่จริง ยิ่งสภาพการจรจรที่ติดขัด Honda CB150R ExMotion น่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ตอบโจทย์ได้ดีในการคล่องตัว รองลงมาคือสมรรถนะของเครื่องยนต์, ระบบกันกระแทกช่วงล่างที่นุ่มนวลมอเตอร์ไซค์ไม่โยกไม่ส่ายเมื่อใช้ความเร็วขณะเข้าโค้ง, ไฟเตือนบอกตำแหน่งเกียร์แสดงตัวเลขดิจิตัลชัดเจน เเละดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใรในสไตล์โมเดิร์นคาเฟ่ที่สำคัญคือ Honda CB150R ExMotion  คือมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่แรกของโลก ฉะนั้นเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจว่าไม่มีมอเตอร์ไซค์ 150 ซีซี. ที่ไหนในโลกนี้จะกล้าจัดชุดแต่งบิ๊กไบค์มาให้เหมือนกับ Honda CB150R ExMotion   อีกเเล้ว
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ โดยรุ่น Standard มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ เทา-ดำ, แดง-ดำ, เขียว-ดำ และดำ ราคาแนะนำโดยประมาณเริ่มต้นที่ 99,800 บาท ส่วนรุ่น ABS มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ เทา-ดำ และดำ ราคาแนะนำโดยประมาณเริ่มต้นที่ 109,800 บาท ขณะที่รุ่นตกแต่งพิเศษมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น CB150R Street Café ผลิตจำนวนจำกัด 500 คัน ราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 135,200 บาท รุ่น CB150R Scramble Café ผลิตจำนวนจำกัด 1,000 คัน ราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 118,400 บาท และรุ่น  CB150R Moriwaki Edition   จะพร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น