วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561

AP Honda ชวนสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คูลซีฟ ถึงถิ่นกำเนิดที่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยการเปิดบ้านต้อนรับพาเข้าชม ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์” สุดยอดพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนวัตกรรมและโมเดลต่างๆ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมา ทั้งชื่อเสียงการยอมรับด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์และผลงานบนเวทีมอเตอร์สปอร์ต ภายใต้ชื่อแบรนด์ชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก
บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่าย รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าในประเทศไทย เชิญคณะสื่อมวลชนหลากหลายแขนงเข้าร่วมรายงานข่าวในมหกรรมยานยนต์ระดับนานาชาติ โตเกียว มอเตอร์ โชว์ 2017” ครั้งที่45 (45th Tokyo Motor show 2017) ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นที่โตเกียว บิ๊ก ไซต์ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม ถึง วันที่ 5 พฤศจิกายน นี้

Honda CB650F 2018

หลังจากที่ได้เปิดตัวที่งาน EICMA เมื่อปีที่ผ่านมา ทาง Honda ก็มีการยืนยันมาแล้วว่าจะปล่อย Honda CB650F 2018 ลงตลาด Bigbike ที่ สหรัฐอเมริกา
Honda CB650F ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 649 cc liquid-cooled ซึ่งทาง Honda กล่าวว่าเป็นเครื่องยนตืที่ทำอัตรารอบได้ดีกว่าเดิมที่ 5,000 รอบต่อนาที เมื่อทางานคู่กับเกียร์ 6 speed โดยจะสามารถผลิตกำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ความเร็วรอบ 11,000 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุด 64 นิวตันเมตรที่ 8,000 รอบต่อนาที
Honda CB650F เวอร์ชั่นอเมริกาจะมีความแตกต่างกับรุ่นที่ขายในยุโรปคือ จะมาพร้อมกับ callipers ใหม่จาก Nissin โช้คหน้าของ Showa Dual Bending Valve fork ซึ่งสามารถปรับแรงกระแทกได้ พร้อมกับ ABS
ทั้ง Honda CB650F และ  Honda CBR650F 2018 จะวางจำหน่ายในสหรัฐฯตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2017 ในขณะที่ราคาจะประกาศในวันที่วางจำหน่าย และ Honda CB650F จะมาพร้อมกับสี Millennium Red

Honda MSX125ตัว2017

Honda เวียดนามเปิดตัว 2017 Honda MSX125 ที่งา น Vietnam Motorcycle Show โดยการกลับมาในครั้งนี้ของ MSX125 มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงเกือบทั้งคันสำหรับมอเตอร์ไซค์ไซส์เล็กคันนี้เริ่มตั้งแต่ ไฟหน้า LED, กุญแจรถที่เก็บพับได้และดีไซน์การออกแบบใหม่ที่แผงปรัชญาการขับขี่เข้ามา
นอกจากนั้นยังมีไฟหน้า LED สองดวง, จอหน้าปัด LCD ถังน้ำมันขนาด 5.7ลิตร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 0.2ลิตร ท่อไอเสียถุกวางให้ต่ำลงกว่าเดิมขณะที่แชสซีใหม่ช่วยให้หัวฉีดและระบบไฟฟ้าทำงานควบคู่กันได้ดีขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ระบบกันกระแทกโช็คหน้าแบบคู่โช้คแบบเดี่ยว จานเบรกคู่หน้าหลัง ยางขนาด 120/70 -12 และ 130/70 -12 น้ำหนักมอเตอร์ไซค์ 104 กก.
เครื่องยนต์ยังเหมือนเดิมที่ 125ซีซี สูบเดี่ยว สองวาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศทำงานควบคู่กับระบบเกียร์ 4สปีด ให้ขุมกำลังสูสุด 9.8แรงม้า ที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิด 10.6 นิวตันเมตรที่ 5,500 รอบต่อนาที มีสีแดง-ดำ, เทา – ดำ และ ทอง – ดำ ให้เลือก
เปิดราคาขาย 2017 Honda MSX125 ที่ 49,990,000 ดงเวียดนามหรือราวๆ 7.6 หมื่นบาท

Honda Unicorn 150

ไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลยทีเดียวสำหรับ Honda Unicorn 150 ที่มาในเวอร์ชั่น Scrambler คันนี้ ซึ่งก็เป็นผลงานการ Customs จาก Furious Customs 
Honda Unicorn 150 มาพร้อมกับถังน้ำมันสีแดงคาดแถบสีเทารูปทรงใหม่ บังโคลนหน้าที่ถูกยกสูงมากขึ้นกว่าปกติ ส่วนบังโคลนหลัง เชื่อมต่อกับเบาะที่นั่ง ให้อารมณ์ off-roader แบบมาเต็ม
Honda Unicorn 150
ไฟหน้าและไฟท้ายได้รับการปรับแต่งด้วยชิ้นส่วนที่สร้างขึ้นมาใหม่ ส่วนล้อของ Honda Unicorn 150 ก็มีการเปลี่ยนขอบล้อมาใหม่พร้อมลงยางขนาด 100 / 90-17 ด้านหน้า และ 110 / 90-16 ส่วนด้านหลัง จาก Ralco
Honda Unicorn 150
เครื่องยนต์ Honda Unicorn 150 เป็นเครื่องยนต์ 150 สูบเดียว ระบายความร้อนด้วยอากาศ 149.2 cc. ส่งกำลังด้วยเกียร์ 5 speed ผลิตกำลังสูงสุด 12.73 แรงม้าที่ความเร็วรอบ 8,000 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุด 12.80 นิวตันเมตรที่ 5,500 รอบต่อนาที
Honda Unicorn 150
ราคาขายของ Honda Unicorn 150 อยุ่ที่  70,000 รูปี หรือคิดเป๋นเงินไทยอยู่ที่ 37,261 บาท
Honda Unicorn 150
Honda Unicorn 150
Honda Unicorn 150

Honda X-ADV

The Honda X-ADV รถมอเตอร์ไซต์ ครอสโอเวอร์ จาก Honda  ที่ผ่านการพัฒนาจากทีมงาน R & D กำลังจะเปิดป้ายเพื่อออกจำหน่ายในเวียดนามเป็นครั้งแรกแล้ว จากการรายงานของเว็บไซต์ MotoSaigon ซึ่งคาดว่าราคาจะพุ่งกระฉูดไปที่ 560,000,000 ดอง หรือตีเป็นเงินไทยสูงถึง 838,101 บาท เลยทีเดียว
สำหรับ Honda X-ADV จะประกอบด้วยอุปกรณ์ดังนี้ เช่นไฟหน้าคู่ LED ช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะขนาด 2 ลิตร พร้อมซ็อกเก็ต 12 โวลต์ ที่ไว้สำหรับชาร์จแบตสมาร์ทโฟน,ระบบกุญแจอัจฉริยะ,กระจกมองข้างแบบปรับได้
ขุมพลังของ Honda X-ADV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 745 cc liquid-cooled, SOHC ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 speed DCT ผลิตแรงม้าได้สูงสุดที่ 54 แรงม้าที่ความเร็วรอบ 6,250 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุด 68 นิวตันเมตรที่ 4,750 รอบต่อนาที
มีการกล่าวอ้างเพิ่มเติมอีกว่า Honda X-ADV มีอัตราการบริโภทน้ำมันที่ 27.5 กม. / ลิตร โดยแมีถังเชื้อเพลิงขนาด 13.1 ลิตร และตัวรถมีน้ำหนักอยู่ที่ 238 กก. และมีระยะห่างพื้น 162 มม.

Honda เตรียมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ Honda Riding Assist-e

บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประกาศเปิดโผรายชื่อสุดยอดยานยนต์แห่งอนาคต ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่จะมาจัดแสดงในงาน “โตเกียว มอเตอร์โชว์ 2017 ครั้งที่ 45” (Tokyo Motor Show 2017) ซึ่งจะมีขึ้น ณ โตเกียวบิ๊กไซต์ ศูนย์จัดแสดงสินค้าและนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสเทคโนโลยีที่ทันสมัยครั้งแรกในโลก มีทั้งรุ่นที่จัดแสดง รุ่นโมเดลที่พัฒนาออกสู่ตลาด รุ่นที่จะเปิดตัวครั้งแรกของโลกและครั้งแรกในญี่ปุ่นอีกมากมาย โดยเปิดให้สื่อมวลชนเข้าชม ในวันที่ 25-26 ตุลาคม 2560 และรอบประชาชนผู้สนใจ ในวันที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2560
การจัดแสดงรถฮอนด้าในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ปีนี้ พื้นที่จัดแสดงทั้งหมดของฮอนด้าจะมุ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ยานยนต์แห่งอนาคตที่ขยายขีดความสามารถในการขับขี่และเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ได้มากยิ่งขึ้น โดยภายในงานยังได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ ครั้งแรกของโลก Honda Riding Assist-e ที่มาพร้อมเทคโนโลยีควบคุมการทรงตัว ที่ฮอนด้าพัฒนาจากการวิจัยกับหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ รถจักรยานยนต์จะสามารถคงการทรงตัวได้เองเมื่อความเร็วลดลง ช่วยลดความเสี่ยงจากการต้องคอยประคองตัวรถด้วยตนเอง และทำให้การขับขี่เป็นเรื่องง่ายและสนุกมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Riding Assist-e นั้นทำงานด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ถือเป็นอีกก้าวของฮอนด้าที่จะช่วยมอบ “ความสุขด้วยอิสระแห่งการเดินทาง” และบรรลุเป้าหมายการสร้าง “สังคมปลอดก๊าซคาร์บอน”
นอกจากนี้ ยังจะได้พบกับรถจักรยานยนต์ Honda Super Cub รุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นการเปิดตัวในโอกาสฉลองการผลิต Super Cub ติดต่อกันครบ 100 ล้านคัน ในเดือนตุลาคมนี้ด้วย พร้อมยังมีไฮไลท์นิทรรศการประวัติศาสตร์ 60 ปีของ Super Cub โมเดลต่าง ๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตของจักรยานยนต์รุ่นนี้นำเสนอในงานครั้งนี้ด้วย ในขณะที่โซนรถแข่งนั้น ทาง Honda พร้อมเอาใจผู้เข้าชมงานด้วยกิจกรรมสนุกๆ มากมาย อาทิ การได้ลองนั่งและสัมผัสรถแข่งตัวจริง โดยบริเวณใจกลางบูธจะถูกจัดเป็นพื้นเฉพาะสำหรับรับรองให้ผู้เยี่ยมชมได้พัก ผ่อนคลาย ตลอดจนได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน
ภายในงาน “โตเกียว มอเตอร์โชว์ 2017” จะยังจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายโมเดลด้วยกัน อย่างเช่น Honda Sports EV Concept เผยโฉมให้เห็นเป็นครั้งแรกของโลก ผสานสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้าเข้ากับเทคโนโลยี AI ให้เป็นรถอัจฉริยะไร้คนขับที่กะทัดรัด มีความปราดเปรียว นอกจากนี้ยังมีโมเดลอื่นๆ อาทิ Honda Urban EV Concept รถสปอร์ตคาร์สุดล้ำขนาดเล็ก ที่ต่อยอดนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อการขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า สะกดทุกสายตาเข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ เผยดีไซด์แห่งอนาคตเรียบง่าย โดยตัว Urban EV นี้ จะช่วยให้คนและรถสื่อสารกันอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ผ่านเทคโนโลยี AI นับเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้าที่จะผลิตออกสู่ตลาดอย่างแพร่หลาย
ไม่เพียงเท่านั้น Honda ยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการ Tokyo Connected Lab 2017 เพื่อนำเสนอแนวคิด “การใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น” โดยเป็นการจัดแสดงรถรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวครั้งแรกของโลกสะท้อนไอเดียการเดินทางที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร อย่างเช่น Honda Ie-mobi Concept ซึ่ง Ie มาจากภาษาญี่ปุ่น แปลว่า “บ้าน” ที่เน้นเรื่องความใกล้ชิดกันของคนในครอบครัวเป็นสำคัญ เป็นต้น โดยผู้สนใจสามารถติดตามบูธฮอนด้าได้ที่เพจรถจักรยานยนต์ Hondahttps://www.facebook.com/hondamotorcyclethailand/
ข้อมูลรุ่นรถฮอนด้า ใน            งาน โตเกียว มอเตอร์โชว์ 2017 ครั้งที่ 45
รถจักรยานยนต์ Concept Car
  • รุ่นที่จัดแสดงในงานและเปิดตัวครั้งแรกของโลก ได้แก่ Honda Riding Assist-e, Super Cub 110 (รุ่นฉลองผลิตครบ 100 ล้านคัน), Super Cub C125 และ Monkey 125
รถจักรยานยนต์ Planned production models
  • รุ่นที่จัดแสดงในงานและเปิดตัวครั้งแรกของโลก Cross Cub 110
  • รุ่นที่จัดแสดงในงานและเปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่น CRF250 RALLY
  • รุ่นที่จัดแสดงในงาน CB1300 SUPER BOL D’OR, CB400 SUPER FOUR, Super Cub 50 และ Super Cub 110
รถจักรยานยนต์ Production Models
  • รุ่นที่พัฒนาออกสู่ตลาด ได้แก่ CRF1000L Africa Twin, CBR1000RR SP, X-ADV, CB1100 EX, Rebel 250
รถจักรยานยนต์ Custom concept models
  • รุ่นที่จะเปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่น ได้แก่ CB1100 RS Custom Concept, CBR250RR Custom Concept และ Rebel 250 Custom Concept
รถจักรยานยนต์ Racing machines
RC213V (รถแข่ง MotoGP รายการ 2017 MotoGP World Championship), CRF450RW (รถแข่งคลาส IA-1 รายการ 2017 All-Japan Motocross Championship), COTA4RT (รถแข่งรายการ 2017 Trial World Championship) รุ่นประวัติศาสตร์: Super Cub C100 (1958), Honda CA100 (1962), Honda C310 (1963), Super Cub C50 (1966), CT110 (1981) และ Super Cub 50 Super Custom (1983)
รถยนต์ Concept Car
  • รุ่นที่จัดแสดงครั้งแรกของโลก ได้แก่ Honda Robot Cast Concept และ Honda Sports EV Concept
  • รุ่นที่จะเปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่น ได้แก่ Honda Urban EV Concept และ Honda NeuV
รถยนต์ Planned production models
  • รุ่นที่จัดแสดงครั้งแรกในญี่ปุ่น ได้แก่ CR-V, CLARITY PHEV และ Legend
  • รุ่นที่เปิดตัวครั้งแรกของโลก ได้แก่ S660 Special β #komorebi edition
  • รุ่นที่เปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่น และพร้อมออกสู่ตลาด ได้แก่ Odyssey
รถยนต์ Production Models
  • รุ่นที่พัฒนาพร้อมออกสู่ตลาด ได้แก่ NSX, Civic Hatchback, Civic Sedan, Civic Type R, Step WGN, N-BOX และ N-BOX
รถยนต์ Racing machines
  • เป็นรุ่นที่จัดแสดง ได้แก่ McLaren-Honda รถแข่ง F1, Dallara DW12 (#26 – Andretti Autosport / รถแข่ง Indycar ของ Takuma Sato ผู้ชนะรายการ Indianapolis 500 ครั้งที่ 101) และ Dallara SF14 (#15 – TEAM MUGEN / Pierre Gasly รายการ All-Japan Super Formula Championship)
Tokyo Connected Lab 2017
รุ่นที่จะเปิดตัวครั้งแรกของโลก ได้แก่ Honda Ie-mobi Concept, Honda Fure-mobi Concept, Honda Chair-mobi Concept และ Honda AI-Miimo Concept
ข้อมูลเพิ่มเติมคลิก http://www.hondanews.info/en/

AP Honda“ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์”

AP Honda ชวนสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คูลซีฟ ถึงถิ่นกำเนิดที่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยการเปิดบ้านต้อนรับพาเข้าชม ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์” สุดยอดพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนวัตกรรมและโมเดลต่างๆ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมา ทั้งชื่อเสียงการยอมรับด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์และผลงานบนเวทีมอเตอร์สปอร์ต ภายใต้ชื่อแบรนด์ชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก
บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่าย รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าในประเทศไทย เชิญคณะสื่อมวลชนหลากหลายแขนงเข้าร่วมรายงานข่าวในมหกรรมยานยนต์ระดับนานาชาติ โตเกียว มอเตอร์ โชว์ 2017” ครั้งที่45 (45th Tokyo Motor show 2017) ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นที่โตเกียว บิ๊ก ไซต์ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม ถึง วันที่ 5 พฤศจิกายน นี้
โดยก่อนถึงวันงานได้เปิดบ้านต้อนรับชวนคณะสื่อมวลชนสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ณ ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์” (Honda Collection Hall) สุดยอดพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของบริษัท ฮอนด้า
สำหรับพื้นที่ของอาณาจักรค่ายปีกนกแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 1998 โดยอยู่ภายในบริเวณสนามทวินริงโมเตกิ หรือสนามทดสอบเพื่อใช้ในการพัฒนายนตรกรรมของ ฮอนด้า และขณะเดียวกันยังเป็นสังเวียนชิงเจ้าความเร็วที่ได้มาตรฐานระดับโลก อย่างรายการที่แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยรู้จักกันดี นั่นคือ โมโตจีพี (MotoGP) ก็ใช้บริการสนามแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
ขณะที่การจัดแสดงภายใน ประกอบไปด้วยนวัตกรรมและโมเดลต่างๆ ทั้งในส่วนของรถยนต์และ รถจักรยานยนต์ รวมกว่า 300 คัน ที่ได้รับความนิยมและสร้างชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ ทั้งในด้านคุณภาพ ยอดขาย และผลงานการคว้าชัยชนะบนเวทีการแข่งขันในศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์
เริ่มตั้งแต่ชั้นแรก จุดประกายความคิดสร้างสรรค์การผลิตนวัตกรรมต่างๆ ทั้งหมดเกิดขึ้นจาก ฮอนด้า โซอิชิโร่” (Honda Soichiro) ผู้ก่อตั้งบริษัทฮอนด้าที่ได้รับสมญานามให้เป็น ชายผู้สร้างความฝันให้เป็นความจริง” ด้วยปณิธานการทำงาน มุ่งมั่นต้องการให้ทุกคนมีความสุขกับผลิตภัณฑ์ของเขา โดยเริ่มผลิตรถจักรยานติดเครื่องยนต์คันแรกของ ฮอนด้า เพื่อมอบให้กับภรรยาของเค้าเองในปี 1946

Honda รถสกู๊ตเตอร์

ผู้ผลิต รถจักรยานยนต์ Honda ได้นำ รถสกู๊ตเตอร์ รุ่นจิ๋วขนาด 50 ซีซี มาตกแต่งด้วยธีมเจ้าหมีดำ หน้ากลม แก้มแดง มาดกวนอย่าง KUMAMON (คุมะมง) โดยสีพื้นเป็นสีแทบทั้งหมด แกรไฟต์ แบล็ก ตัดด้วยแถบสีแดงตามจุดต่างๆ รอบคัน ครอบไฟหน้าตกแต่งด้วยสีขาว พร้อมลายกราฟิกหมีคุมะมงคาดที่ด้านข้างของตัวรถ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 203,040 เยน หรือประมาณ 5.87 หมื่นบาท
Honda Giorno KUMAMON เป็น รถสกู๊ตเตอร์ ที่มีความยาวเพียง 1,650 มิลลิเมตร กว้าง 670 มิลลิเมตร สูง 1,035 มิลลิเมตร เบาะที่นั่งสูง 720 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 81 มิลลิเมตร เท่านั้นเอง สามารถเก็บสัมภาระไว้ที่ใต้เบาะนั่งที่มีขนาด 20 ลิตร ซึ่งสามารถใส่ได้ทั้งหมวกกันน็อก สัมภาระ หรือซองเอกสารที่มีขนาดประมาณ A4 และยังมีช่องเก็บของด้านหน้าอีก 2 ช่อง ที่มีฝาเปิด-ปิด พร้อมช่องเสียบชาร์จไฟ 12 โวลต์อีกต่างหาก สำหรับสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ต่างๆ
Honda Giorno KUMAMON เป็นเครื่องยนต์แบบ 1 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 50 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ จับคู่กับเกียร์ CVT (Vmatic) พร้อมระบบ Idling Stop ที่ช่วยประหยัดน้ำมัน ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 4.5 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที และแรงบิดอยู่ที่ 4.1 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที
บอกได้เลยว่า Honda Giorno KUMAMON เครื่องอาจจะไม่แรง แต่ความน่ารักแรงพอตัวแน่นอน แต่ก็น่าเสียดายสำหรับสาวกหมี KUMAMON เพราะเนื่องจากทาง Honda ไม่มีประกาศจำหน่าย Honda Giorno KUMAMON ในตลาดไทย

Motor Show 2018 “Honda C125

ในงาน Motor Show 2018 บูธ Honda ท็อปฟอร์มเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่หลากหลายรุ่น ทั้งรถเล็กและบิ๊กไบค์ แต่ที่น่าจะนับเป็นไฮไลท์ที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ที่แฟนๆ รอคอยมานานอย่าง “Honda Monkey” และ “Honda C125 พร้อมแนะนำคอนเซ็ปต์สโตร์ไอเดียเจ๋งอย่าง CUB House
โดยความเซอร์ไพรส์ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง เพราะทางฮอนด้าได้เชิญเจ้าสำนักแต่งชื่อดังจาก 3 ดังของญี่ปุ่นมาโชว์โมเดลเก๋ในงานนี้โดยเฉพาะ เรียกว่าไม่ได้เอารถจักรยานยนต์ตัวแต่งมาโชว์กันเฉย ๆ แต่พาเจ้าสำนักตัวจริงเสียงจริงจากญี่ปุ่นมาในงานด้วย ไอเดียการแต่ง Honda Monkey ที่นำมาโชว์ในงานครั้งนี้  จะเป็นอย่างไรมาดูกันเลย
คุณมิโดริ โมริวากิ ทายาทสำนักแต่ง MORIWAKI ที่เป็นแบรนด์เรซซิ่งขนานแท้ แต่งานนี้มาแต่งมินิไบค์อย่าง Honda Monkey โดยคอนเซ็ปต์ของเธอคือต้องน่ารัก จากปกติแบรนด์นี้จะเป็นแนวเรซซิ่ง คือทุกครั้งที่แต่งรถจักรยานยนต์ที่ออกไปจะต้องดูแข็งแกร่ง และแรง แต่สำหรับ Honda Monkey จะแตกต่างด้วยการนำเอาความน่ารักมาเป็นอันดับแรก เพราะรถจักรยานยนต์คันนี้เป็นเหมือนตัวแทนของความสนุกสนาน จึงอยากให้คนเห็น Honda Monkey ที่ทาง MORIWAKI แต่งแล้วรู้สึกดูน่ารักและอยากนำไปขี่ไปแต่งต่อยอดกันอีก ที่สำคัญยังคงคอนเซ็ปต์ว่าถึงจะน่ารักแต่ยังแรงอีกด้วย
สำหรับ คุณโทโมฮิโร่ ทานิโมโตะ จาก KITACO ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์สนุกสนาน เพื่อเอาใจนักสะสมเก่า ๆ มาสนุกกับ Honda Monkey รุ่นใหม่ ด้วยรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป และเครื่องยนต์ที่แรงขึ้นทำให้ Honda Monkey รุ่นใหม่สามารถทำอะไรได้มากขึ้น ทั้งใช้งานได้ไกลขึ้น ขี่สนุกขึ้น จึงเลือกทำอุปกรณ์แต่งที่แปลกใหม่ ที่ไม่เคยทำกับ Honda Monkey ที่เป็น 50 ซีซี เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเก่าหันมาสนใจและอยากสนุกกับ Honda Monkey 125 ซีซี ไปพร้อมกับลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ด้วย
ปิดท้ายกับ คุณโคทาโร่ โทซากะ จาก Gcarft สำนักแต่งที่โดดเด่นเรื่องงานอลูมิเนียมมาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Monkey Retro” ซึ่งจริง ๆ แล้วสำนักนี้ได้แต่ง Honda Monkey มามากกว่า 30 ปีแล้ว พอมาถึง Honda Monkey รุ่นที่เปลี่ยนมาเป็น 125 ซีซี ทำให้รถจักรยานยนต์มีขนาดใหญ่ขึ้นนิดหน่อย สิ่งที่ได้มาก็คือการขับขี่ที่ไกลขึ้น ใช้งานได้มากขึ้น จึงทำให้ Honda Monkey 125 ซีซี เป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้งานได้มากกว่าเดิม แต่ยังน่ารักเหมือนเดิม ซึ่งขนาดที่ใหญ่ขึ้นก็ไม่ใช่ปัญหา โดย Gcarftพยายามทำอุปกรณ์ที่แต่งออกมาแล้วทำให้รถจักรยานยนต์ดูน่ารักเหมือนรุ่น 50 ซีซี แต่ขับขี่ได้แรงแบบ 125 ซีซี ถือเป็นคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจไม่น้อย เพื่อเอาใจแฟน ๆ ที่หลงใหลในเสน่ห์ของเจ้าลิงน้อย Honda Monkey โดยเลือกที่จะทำให้รถจักรยานยนต์ใหม่คงความคลาสสิกคงแบบเก่าเพื่อดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ แทน
รวมคอนเซ็ปต์การแต่งจากทั้ง 3 สำนักแต่ง โดยในงานไม่ได้มาแต่งโชว์กันเล่น ๆ แต่มีรถให้จองกันจริง ๆ อีกด้วย แถมยังเป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นผลิตจำนวนจำกัด และรถทั้งสามรุ่นดูจะมีคนสนใจจองกันเยอะทีเดียว ใครที่กำลังเล็งๆ เจ้าลิงน้อย Honda Monkey แวะมาที่บูธ Honda ในงาน Motor Show 2018 ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถคลิกเข้าไปที่ https://www.facebook.com/cubhousebyhonda หรือ Add Line @Hondamotorcycleth เพื่อรับสิทธิพิเศษในงานได้เลย

EICMA Show 2017Honda CB300R

หลังจากที่สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวครั้งแรกของโลกที่งาน EICMA Show 2017 ที่เมืองมิลาน New Honda CB300R ไปเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว เราก็รอคอยมาตลอดเลยว่าเราจะมีโอกาสได้เห็น New Honda CB300R มาวาดลวดลายในบ้านเราหรือไม่ และเราจะได้สัมผัสหรือเปล่า ล่าสุดทาง A.P. Honda ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง จัดเจ้า New Honda CB300R มาให้เราได้สัมผัสกันจนได้
จากที่ได้เห็นภาพการเปิดตัวของ New Honda CB300R ในงาน EICMA Show 2017 ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวเลยก็คือ หืมม “อย่างเท่เลย” อาจจะเพราะด้วยรูปโฉมของตัวรถที่มีการผสมผสานความเก๋า เท่ ในแบบฉบับ Café Racer เข้ากับความโฉบเฉี่ยวแบบ Sport จนได้คำจำกัดความใหม่เป็น Neo Sports Café ได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว เลยทำให้โดนใจได้ไม่ยาก จะเรียกว่าเป็น “first impression” หรือความประทับใจครั้งแรกเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้เรื่องแนวคิดของการออกแบบก็ยังมีความน่าสนใจเช่นเดียวกัน โดย New Honda CB300R มากับแนวคิดการออกแบบในแบบฉบับ “Japan Crafted” ซึ่งก็สร้างความอยากรู้ของเรามากยิ่งขึ้นไปอีก ว่าความเป็น “Japan Crafted”มันเป็นอย่างไร
สำหรับ New Honda CB300R เป็นรถสไตล์ Neo Sports Café ที่ใช้เครื่องยนต์ สูบเดี่ยว 4 วาล์ว DOHC ขนาด 286 cc. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 speed ถังน้ำมันมีความจุ 10 ลิตร โช้คหน้าเป็นแบบหัวคว่ำ Telescopic Upside Down ขนาด 41 มิลลิเมตร ส่วน โช้คหลังเป็น Mono Shock สามารถปรับได้ 7 ระดับ ระบบเบรคเป็นดิสก์เบรคหน้าหลัง จานเบรคหน้าขนาด 296 มม. และเรเดียลเมาท์ 4 พอต คาลิปเปอร์ ส่วนจานเบรคหลัง ขนาด 220 มม.พร้อมระบบ ABS ทั้งหน้าและหลัง
รูปโฉมภายนอกนั้น ก็มาในแบบฉบับที่จะเรียกว่าเป็น Signature ของทาง Honda ไปแล้วก็ว่าได้ ด้วยไฟหน้าเป็นแบบ LED ทรงกลม เอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Neo Sports Café พร้อมแสงไฟส่องสว่างได้ในทุกสถานการณ์ทุกเส้นทางการขับขี่ หน้าปัดเรือนไมล์ New Full LCD Multifunction Meter ที่ควบคุมระบบมัลติฟังก์ชันแสดงผลแบบดิจิทัล พร้อมไฟเตือนการเปลี่ยนเกียร์ เมื่อรอบเครื่องยนต์สูงถึงช่วงที่กำหนด และฟังก์ชัน Peak Hold ที่ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างสนุกสนานยิ่งขึ้น ท่อไอเสียออกแบบใหม่ตามสไตล์ Neo Sports Café ซึ่ง เป็น DNA ที่ถอดแบบมาจากรถ Bigbikeระดับท็อปคลาสของ Honda เลยทีเดียว แฮนด์บาร์ (Tapered Rubber-Mounted Handlebar)ให้ความมั่นคงแข็งแรงและน้ำหนักเบา แฮนด์บาร์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 28.6 มม. บริเวณตอนกลางออกแบบมาให้มีรูปทรงเรียวเพื่อการควบคุมที่มั่นคงและปลอดภัยยิ่งขึ้น
มาในส่วนของการขับขี่ หลังจากที่ได้สัมผัส New Honda CB300R แล้ว ความรู้สึกแรกเลยคือ ชอบในส่วนของ แฮนด์บาร์ มาก มีความกว้างแบบเหมาะมือ ควบคุมได้ง่าย มีความคล่องตัว เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ แฮนด์มีความนิ่งพอสมควรแม้จะอยู่ในความเร็วที่สูงในระดับนึง แต่อาจจะขัดใจสำหรับสายมุดที่ชอบซอกแซกในเมืองช่วงที่รถติดไปเล็กน้อย แต่ด้วยความที่ให้ความรู้สึกสบายและไม่เหนื่อยในช่วงขับขี่ จากความขัดใจก็เปลี่ยนมาเป็นความชอบใจได้ในทันที อัตราการเร่งถือว่าดี และด้วยความที่รถมีความเบาเลยทำให้เวลาเร่งรู้สึกได้ถึงความพุ่งอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว กำลังม้าจะมีความชัดเจนในช่วงรอบประมาณ 7,000 – 8,000 รอบ ในช่วงที่ถนนโล่งผู้ขับขี่ทำความเร็วได้สูงสุดอยู่ที่ประมาณ 160 กม./ชม. เครื่องยนต์สั่นเล็กน้อย แต่ตัวรถไม่มีอาการส่าย ถือว่านิ่งพอสมควร เสียงท่อไม่กระโชกโฮกฮาก แต่ก็มีความเกรี้ยวกราดคำรามบ้างในบางช่วง เบาะนั่งค่อนข้างสบายในระดับนึงเหมาะกับการขับขี่ในเมือง แต่ถ้าออกทางไกลก็อาจจะต้องหยุดพักบ่อยสักหน่อย ส่วนเบาะนั่งของผู้โดยสาร ตั้งอยู่องศาที่เหมาะเจาะไม่ลาดเอียงมากเกินไป เวลาเบรคตัวอาจจะไหลบ้างเล็กน้อย แต่ไม่แรงขนาดไหลมากองอยู่ที่หลังคนขับ เหมือนรถแนวสปอร์ตทั่วไป หน้าปัดเรือนไมล์มัลติฟังก์ชันดูง่าย สบายตา แสดงผลข้อมูลการใช้งานชัดเจน
สรุปโดยรวม New Honda CB300R ก็ยังเป็นรถที่ขับขี่สนุกและเร้าใจในแบบฉบับของ Honda อยู่เหมือนเดิม ถ้าใครเป็นสาวกของ Honda ก็น่าจะรู้ๆกันดีในส่วนนี้ เหมาะกับ Biker หน้าใหม่ระดับ Beginner ที่อยากได้รถ Bigbike ใน class กลางๆที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป ราคาไม่ไกลเกินตัวพอจับจองเป็นเจ้าของได้ ตอบโจทย์การใช้งานทั้งการขับขี่ในเมือง หรือว่าจะออกทริปทางไกลก็ไปได้สบาย ส่วนเรื่องของเทคโนโลยี ก็ถือว่าครบครันเลยทีเดียวสำหรับรถใน class นี้ และสุดท้ายที่สร้างความโดดเด่นให้ New Honda CB300R ก็คือการออกแบบที่ดูเฉียบขาดด้วยเส้นสายที่ดูละเมียดและคมไปแทบทุกส่วน จนทำให้เรารู้และเข้าใจว่าความเป็น “Japan Crafted” มันคือแบบนี้นี่เอง
ราคา New Honda CB300R มีราคาเริ่มต้นที่ 149,800 บาท มีสามสีให้เลือกคือ สีดำ,เทา-ดำ และ แดง-ดำ ใครที่อยากสัมผัสความเป็น “Japan Crafted” แต่ราคาจับต้องได้ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมหรือทดลองขับขี่ได้ตัวแทนจำหน่าย A.P. Honda หรือ Honda Wing Center ทุกสาขา ทั่วประเทศ